โรคราคน้ำตาล
เกิดจากเชื้อรา phellinus noxius (corner) G.H. Cunn พบการระบาดในช่วงฤดูฝน แพร่กระจายได้โดยการสัมผัสกันระหว่างรากที่เป็นโรคกับรากของต้นปกติ หรือสปอร์เชื้อราปลิวไปตามลมลักษณะอาการ
- ลักษณะเส้นใยซึ่งจับอยู่ที่ผิวเปลือกราก จะปรากฏเส้นใยสีน้ำตาลปนเหลือง เป็นขุยเหมือนกำมะหยี่ ปกคลุมผิวราก และเกาะยึดดินทรายไว้ ทำให้รากมีลักษณะขรุขระ เส้นใยเมื่อแก่จะเป็นแผ่นสีน้ำตาลดำ
- ลักษณะเนื้อไม้ของรากที่เป็นโรค ในระยะแรกจะเป็นสีน้ำตาลซีด ต่อมาจะปรากฎเส้นสีน้ำตาลเป็นส้นเดี่ยวลายสลับฟันปลาอยู่ในเนื้อไม้ รากที่เป็นโรคมานาน เมื่อตัดตามขวางจะเห็นลายเส้นใยที่แทรกในเนื้อไม้มีลักษณะคล้ายรวงผึ้ง เนื้อไม้จะเบาและแห้ง
- ลักษณะดอกเห็ดที่เกิดตรงโคนต้น หรือตอไม้เหนือพื้นดิน ดอกเห็ดจะเป็นแผ่นหนาและแข็ง ลักษณะครึ่งวงกลม ขนาดค่อนข้างเล็ก ผิวด้านบนมีรอยย่น เป็นวงสีน้ำตาลเข้ม ผิวด้านล่างมีสีเทา
- แปลงยางที่เคยเป็นโรคราก ก่อนปลูกยางซ้ำต้องใช้กำมะถันรองก้นหลุม เพื่อปรับ pH ให้เหมาะสม
- หากพบโรค ควรขุดต้นและรากเผาทำลายให้หมด
- ขุดคูล้อมบริเวณต้นที่เป็นโรค ป้องกันการสัมผัสกันของราก ขนาดคูกว้าง 30 ซม. ลึก 60 ซม. เพื่อป้องกันไม่ให้โรคแพร่ระบาดไปยังต้นอื่น
- ในต้นที่เริ่มเป็นโรคให้ขุดินรอบโคนต้นเป็นร่องแล้วใช้ Tridemorph ราดโคนต้นทุก 6 เดือน
- การเตรียมพื้นที่ปลูกยางควรทำลายตอไม้ ท่อนไม้เก่าออกให้หมด ไถพลิกหน้าดินตากแดดเพื่อกำจัดเชื้อราที่เจริญอยู่ในดิน และในเศษไม้เล็ก ๆ ที่หลงเหลืออยู่ในดิน
- ในแหล่งที่มีโรคระบาด หลังการเตรียมดินควรปล่อยพื้นที่ว่างใว้ประมาณ 1-2 ปี หรือปลูกพืชคลุมดินตระกูลถั่ว เพื่อปรับสภาพดินให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพืชและจุลินทรีย์ในดินบางชนิดที่เป็นพิษต่อเชื้อราสาเหตุโรคราก
- แปลงยางที่มีประวัติการเป็นโรครากมาก่อน แนะนำให้ใช้กำมะถันผงผสมดินในหลุมปลูก 240 กรัมต่อหลุม เพื่อปรับสภาพ pH ดิน ให้เป็นกรด เหมาะต่อการเจริญของแอนทาโกนิสต์ บางจำพวก ซึ่งเป็นเชื้อปฏิปักษ์ต่อโรครากขาว และป้องกันการเจริญของเชื้อราสาเหตุโรครากเข้าทำลายรากยาง
- หลังจากปลูกยางไปแล้ว 1 ปี ควรตรวจดูพุ่มใบเพื่อค้นหาต้นยางที่เป็นโรคราก ควรตรวจซ้ำเป็นระยะ ซึ่งความถี่ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของโรค ถ้ามีต้นเป็นดรครากไม่สูงมากนัก อาจตรวจซ้ำทุก 3 เดือน เมื่อพบต้นยางเป็นโรครุนแรงไม่อาจรักษาได้ ควรขุดต้นเผาทำลายเสีย และรักษาต้นข้างเคียงโดยการใช้สารเคมี ส่วนบริเวณไม่เป็นโรค ควรทำการตรวจปีละ 1-2 ครั้ง การขุดดูที่ราก แนะนำให้ปฏิบัติเมื่อพบว่าพุ่มใบมีอาการผิดปกติแล้วเท่านั้น ต้นยางอายุน้อยที่เป็นโรครากนั้น การาป้องกันกำจัดมีวัตถุประสงค์เพื่อยับยั้งการระบาดของโรค ดังนั้น เมื่อพบต้นเป็นโรครากจึงควรขุดทำลายเสียให้หมด
- ต้นยางที่มีอายุมากกว่า 3 ปีขึ้นไป ควรขุดคูล้อมบริเวณต้นเป็นโรค (ขนาดคูกว้าง 30 เซนติเมตร) เพื่อป้องกันไม่ให้โรคแพร่ระบาดไปยังต้นอื่นโดยการสัมผัสกันของราก
- ไม่ควรปลูกพืชซ่อม หรือพืชแซมที่เป็นพืชอาศัยในพื้นที่ที่เป็นโรคราก
- ใช้สารเคมีสำหรับรักษาต้นที่เป็นโรคเพียงเล็กน้อย และใช้กับต้นข้างเคียงเพื่อป้องกันโรค
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น