ขอต้อนรับสู่ หมู่บ้านเฉลิมพระเกียรติ ชมรมเพาะพันธุ์กล้ายางคุณภาพ ตอนนี้ยาง TP48 พันธุ์มาเลย์ พร้อมออกสู่เกษตรกรแล้ว สายพันธุ์อื่น ๆ ปรับราคาใหม่ ในราคาเกษตรกร และตอนนี้ทางชมรมต้องการตัวแทนตัวหน่ายกล้ายาง สนใจรายละเอียด กรุณาติดต่อโดยตรง

ข้อคิดก่อนปลูกยางพารา

ข้อคิดก่อนปลูกยางพารา

ข้อควรพิจารณาในการตัดสินใจปลูกยางพารา

การขายยางที่ตลาดกลางยางพาราอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลาราคายางพารา(ยางแผ่นดิบ) เฉลี่ยรายปี ณ ตลาดกลางยางพาราอำเภอหาดใหญ่นับตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา   ได้เพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี จาก กิโลกรัมละ 22.52 บาท จนถึง กิโลกรัมละ 82.13 บาท ในปี 2551 นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับผู้ที่มีอาชีพทำสวนยางพารา และที่เป็นข่าวครึกโครมก็คือราคายางพารา ณ วันที่ 12-13 มิถุนายน 49 ที่สูงถึงกิโลกรัมละ 100.99 บาท  และเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2554 ราคายางแผ่นดิบ คุณภาพ 3 พุ่งขึ้นสูงถึง กิโลกรัมละ 183.64  บาท ส่วนยางแผ่นรมควัน ชั้น 3 กิโลกรัมละ 198.76  บาท  ปัจจุบัน (พ.ค. 54 ) ราคายางตกลงมาอยู่ที่ กิโลกรัมละประมาณ 150  บาท ขึ้นลงตามกลไกของตลาด สิ่งนี้ เป็นสาเหตุให้มีมือใหม่ในการปลูกสร้างสวนยางพาราเพิ่มมากขึ้น อย่างรวดเร็ว แต่นี่ก็ไม่ใช่สาเหตุเดียวที่จะมีมือใหม่ในวงการนี้ มีหลายคนที่ไม่ได้ทำการเกษตรมาเลย แต่ต้องรับมรดกเป็นสวนยางพารา หรือข้าราชการหลายท่านที่มองหาสวนยางพาราไว้เป็นแหล่งรายได้และหลีกหนีความวุ่นวายจากสังคมเมืองในบั้นปลายของชีวิต, ตลอดจนพี่น้องเกษตรกรภาคกลาง-อีสาน-เหนือ ที่อยากจะเปลี่ยนอาชีพมาทำสวนยางพารา เพื่อความหวังใหม่ที่น่าจะดีกว่าชีวิตเดิม ๆ ไม่ว่าจะเป็นใคร หากท่านจำเป็นต้องใช้เงินก้อนใหญ่ในการลงทุนปลูกสร้างสวนยางพารา ข้อคิดที่ควรพิจารณา จึงน่าเป็นสิ่งที่ทำให้เราเข้าใจเรื่องยางพาราและปัญหาเรื่องยางพารา มากขึ้น
  1. ราคายางพาราขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ที่ค่อนข้างซับซ้อน แต่ปัจจัยหลัก คือ เรืองของ อุปสงค์(demand-คือ ปริมาณความต้องการสินค้า) และอุปทาน (supply-ปริมาณเสนอขายสินค้า) ซึ่งจะขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจของประเทศผู้ใช้ยางที่สำคัญ เช่น จีน, สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น, อินเดีย, มาเลเซีย, เกาหลีใต้ เป็นต้น หากภาวะเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้ โดยเฉพาะประเทศจีน ที่มีอัตราการขยายตัวของการใช้ยางมากที่สุดในปัจจุบันนี้ เป็นไปในทิศทางที่ดี การสั่งซื้อยางพาราจากไทย เพื่อนำเข้าประเทศเพื่ออุตสาหกรรมการผลิตยางรถยนต์ ก็จะเป็นการกระตุ้นราคายางพาราได้เป็นอย่าสวนยางพารา อายุประมาณ 5 ปีงดี (หลังจากที่จีนได้เป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก หรือ WTO เมื่อปี 2544 ทำให้การลงทุนของบริษัทผลิตรถยนต์ และยางรถยนต์ขนาดใหญ่จากต่างประเทศหลั่งไหลเข้าสู่ประเทศจีนมาก และเนื่องจากประเทศจีนเป็นตลาดที่ใหญ่ จึงทำให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างรวดเร็ว)
  2. แม้ว่าทางรัฐบาลจะมีมาตรการรองรับหรือมีมาตรการในการรักษาระดับราคายางพาราไม่ให้ตกต่ำ เช่น การร่วมมือของ 3 ประเทศยักใหญ่ในการผลิตยางพารา คือ ไทย, มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ในการก่อตั้งบริษัทการค้าร่วม ก็ตาม แต่คงไม่มีใครรับรองได้ 100 % ว่าพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางพาราจะไม่พบกับปัญหาราคายางพาราตกต่ำ เนื่องจากยางพาราเป็นสินค้าทางการเกษตรที่มีปัจจัยเกี่ยวข้องมากมาย และไม่อาจควบคุมการผลิตที่ขึ้นอยู่กับธรรมชาติได้เช่นยางสังเคราะห์ ที่เป็นสินค้าอุตสาหกรรม
  3. การได้เข้ามาเป็นรัฐบาลของพรรคการเมืองต่าง ๆ อาจส่งผลต่อราคายางพาราได้เช่นกัน แต่อยู่ในระดับหนึ่ง ปัจจัยที่มีผลมากจนทำให้ราคาเปลี่ยนแปลงไปมาก ๆ คือเรือง อุปสงค์และอุปทาน และภาวะเศรษฐกิจโลก ตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
  4. หากมีมาตรการควบคุมการเพิ่มพื้นที่ปลูกยางพาราของประเทศต่าง ๆ เพื่อให้การผลิตมีความสมดุลย์กับปริมาณการใช้ ราคายางพาราก็จะมีเสถียรภาพมากขึ้น
  5. เกษตรกรควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับยางพารา ซึ่งหาชมได้จาก วีดีโอการปลูกสร้างสวนยางพารา พร้อมกับเนื้อหาข้อมูลที่สำคัญมาก ๆ ซึ่งก็คือข้อมูลเกี่ยวกับตลาดยางพาราทั้งในประเทศและต่างประเทศ   ข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้ มีใน เว็บไซต์       
*****ข้อมูลจาก เคเอ็มรับเบอร์****





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น